วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

โดย..นางวรรณี  เพ็งประไพ
ครูโรงเรียนวัดอภยาราม

             คณิตศาสตร์เป็นวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับการเรียน เด็ก ๆ ต้องมีคะแนนคณิตศาสตร์สูงในระดับหนึ่งจึงจะสามารถสอบเข้าเรียนในระดับมัธยม หรือเลือกสาขาวิชาที่ต้องการได้ โดยเฉพาะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งอาชีพที่ทำเงินมากมายหลายอาชีพบุคคลเหล่านั้นต้องมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ดี วันนี้ผู้เขียนขอเขียนเรื่องวิธีการช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์ ดังต่อไปนี้
           1. ต้องแน่ใจว่า ลูกเข้าใจความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ การใช้วิธีการท่องจำเพียงใช้ไม่ได้ผลกับการเรียนคณิตศาสตร์ ดังนั้นต้องพยายามให้ลูกเข้าใจโจทย์พื้นฐานง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น โดยใช้วิธีเพิ่มจำนวนไม้บล็อกในกองให้ลูกนับและถามว่าตอนนี้มีไม้บล็อกในกองเท่าไหร่ เป็นต้น
          2. ช่วยลูกให้เข้าใจความจริงพื้นฐาน ความจริงพื้นฐาน เช่น 3-2 = 1 , 1+1 = 2 เป็นต้น เด็ก ๆ สามารถตอบได้ในช่วงเวลาอันสั้น ๆ โดยใช้กระดานตัวเลขเข้าช่วย ชูภาพให้เด็ก ๆ ดู และให้เด็กตอบอย่างรวดเร็ว หากลูกไม่สามารถหาคำตอบได้ให้ใช้อุปกรณ์ของจริงช่วยในการนับ
         3. สอนลูกให้เขียนตัวเลขอย่างบรรจง 25% ของการทำโจทย์คณิตศาสตร์ผิด คือ การเขียนตัวเลขผิด ดังนั้น ต้องหัดให้ลูกเขียนตัวเลขบรรจง เขียนหลักของตัวเลขให้ตรงกัน โดยซื้อสมุดที่มีเส้นช่องบรรทัดเป็นตารางกราฟให้ลูก เพื่อให้ลูกเขียนตัวเลขง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้มีข้อผิดพลาดน้อยลง
         4. ให้ความช่วยเหลือทันทีเมื่อลูกต้องการความช่วยเหลือ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องอยู่บนความเข้าใจของพื้นฐานที่เรียนมาแล้ว ยกตัวอย่าง เช่น หากไม่มีความเข้าใจเรื่องเปอร์เซ็นต์ ก็จะทำผิดพลาดเรื่องจุดทศนิยมด้วย หากคุณครูไม่มีเวลาพอในการช่วยเหลือเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจต้องมีติวเตอร์พิเศษให้ลูกเรียนเสริมอีกครั้ง
          5. สอนลูกถึงวิธีการทำการบ้าน หลังจากได้รับการเรียนรู้ทักษะทางคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนแล้ว สอนลูกถึงวิธีการทำการบ้านจากการศึกษาการแบบฝึกหัดและอ่านตัวอย่างวิธีทำในหนังสือ ให้ลูกลองทำจากตัวอย่างก่อนแล้วจึงเริ่มลงมือทำแบบฝึกหัด
          6. เสริมแรงลูก ให้ลูกทำมากกว่าการบ้านที่ครูให้ การฝึกให้ลูกทำบ่อย ๆ เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับคณิตศาสตร์ หากคุณครูให้ทำโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เป็นการบ้าน คุณพ่อคุณแม่ลองให้ลูกทำข้อคณิตศาสตร์แปลก ๆ มากกว่าการบ้านที่คุณครูให้ทำบ้าง เพื่อเพิ่มพูนทักษะทางคณิตศาสตร์ให้มากขึ้น หากลูกใช้เวลาในการฝึกฝนทางคณิตศาสตร์มากเท่าไหร่ เด็กจะยิ่งมีความเชื่อมั่นและมีทักษะทางคณิตศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย
           7. อธิบายถึงการแก้โจทย์ปัญหา คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องเข้าใจโจทย์ปัญหา ให้ลูกอ่านโจทย์หลาย ๆ ครั้ง และทำความเข้าใจ อาจให้ลูกวาดภาพพร้อมแผนผังประกอบด้วย อีกทั้งทำโจทย์ให้ง่ายขึ้นโดยการเปลี่ยนโจทย์ปัญหาเป็นตัวเลขที่ง่ายขึ้น เมื่อเด็กตีโจทย์ได้ก็สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้
         8. ช่วยลูกให้เข้าใจคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์ หากเด็ก ๆ เข้าใจโจทย์อย่างไม่ถ่องแท้ ไม่เข้าใจศัพท์ทางคณิตศาสตร์ บวก ลบ มากกว่า น้อยกว่า คงเดิม เหลือ เป็นต้น จะทำให้เด็กแก้โจทย์ปัญหาไม่ได้ วิธีการช่วยวิธีหนึ่งคือ ให้แก้โจทย์โดยใช้ตัวเลขง่าย ๆ แทนตัวเลขยากๆกับลูก
          9. ทำให้คณิตศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หากเด็กตระหนักถึงความสำคัญทางคณิตศาสตร์จะช่วยให้เด็กเข้าใจความหมายมากขึ้น เช่น ให้เด็กวัดความความยาวของกระถางต้นไม้ต้นหนึ่งไปสู่อีกต้นหนึ่ง หรือให้ช่วยไปจ่ายค่าอาหาร เป็นต้น
          10. เล่นเกมกับลูก โดยให้ลูกนับต้นไม้ที่ผ่านมา เสาไฟฟ้า หรือบวกเลขจากทะเบียนรถ ทำให้ลูกสนุก เพื่อลูกจะรู้สึกว่าคณิตศาสตร์ไม่เป็นการเรียนแต่เป็นการเล่นเกมที่สนุก
คณิตศาสตร์อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เลขฐาน 5 และ 10 พื้นฐานความเข้าใจทางคณิตศาสตร์จะช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตอนาคตได้ อย่าให้ลูกเรียนเลขโดยการท่องจำ แต่ให้ลูกเรียนด้วยความเข้าใจและสนุกกับมัน เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

ขอบคุณ    ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ   ที่มาจาก MGR Online 19 มิถุนายน 2559

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ทำอย่างไรให้นักเรียน กล้าคิด กล้าแสดงออก

 ..... เพลงพิณ  จำปาทอง 
ครู โรงเรียนวัดอภยาราม....

กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ รวมกันแล้ว เป็นการกล้าแสดงออก  ครูผู้มีหน้าที่นอกจากจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนแล้ว  ครูจะต้องอบรมบ่มนิสัยนักเรียนให้อยู่ได้ในสังคมนี้อย่างมีความสุข  ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี  คนเก่ง  และมีความสุข  ทั้งนี้นักเรียนควรมีคุณลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์หลายประการ  หนึ่งในจำนวนนั้นคือ  นักเรียนควรมีความกล้าในการแสดงออก
การแสดงออก  หมายถึง  นักเรียนมีความกล้าคิด  กล้าพูดและกล้าทำ  ซึ่ง กล้าคิด  คือ  การคิดในสิ่งที่ดีงาม  คิดสร้างสรรค์  คิดในทางบวกและเป็นประโยชน์  กล้าพูด  คือ  การพูดในสิ่งที่ดี  พูดสร้างสรรค์  พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์  และกล้าทำ  คือ  การมีความประพฤติดี  มีวินัย  ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์  ดังนั้นกล้าคิด  กล้าพูด  กล้าทำ  รวมกันแล้วจึงเป็นการกล้าแสดงออกของนักเรียน 

แต่ในปัจจุบัน  นักเรียนส่วนใหญ่  กล้าในสิ่งที่ไม่ควรกล้า  จะคิดว่าเป็นความกล้านั้น  ก็ไม่ใช่  คงเป็นการก้าวร้าวมากกว่า  เพราะในความกล้านั้น  ควรเป็นความกล้าในสิ่งที่ดีงาม ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว  แต่นักเรียนมักก้าวร้าว  ไม่มีการให้อภัย  หนักนิดเบาหน่อยก็ไม่ยอมลดราวาศอก  ต้องมีการแก้แค้น  ดังที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เนืองๆ ดังนั้นผู้ที่เป็นครู  ผู้ปกครอง  ผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด  ต้องสอนให้เด็ก  รู้จักการคิด  การพูด  การทำ  ในขอบเขตที่ดีงาม  เมื่อเห็นการเกินเลยกว่าขอบเขตที่ดีงามนั้น  ควรมีการบอกสอน  ไม่ควรละเลยไป  พ่อแม่ผู้ปกครองบางครอบครัวนั้น  ไม่มีเวลาที่จะอบรมบ่มนิสัยที่บ้าน  ปล่อยให้เป็นหน้าที่และภาระของครูที่โรงเรียน   จึงเป็นวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง  ควรต้องมีการร่วมมือกันทั้งครูและผู้ปกครองตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง  จึงจะเกิดผลดีกับนักเรียน ให้เป็นสมาชิกที่ดีมีคุณภาพต่อประเทศชาติต่อไป

ข่าวการศึกษา